“เคยมารึยังคะ? ถ้ายังไม่เคย เดี๋ยวป้าติ๋มจัดสำรับอาหารโบราณเอาไว้ให้ลองทานนะ”
เสียงนุ่มเย็นของ ‘ป้าติ๋ม-สุมาลี วงษ์สวรรค์’ ตอบกลับมาทางปลายสายเมื่อเราโทรศัพท์ไปแจ้งความจำนงว่าอยากแวะไปฝากท้องที่ ‘สวนทูนอิน’ บ้านในสวนลับที่ซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขาและต้นไม้ใหญ่หนาทึบของ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ อันเป็นห้องทำงาน บ้าน และที่พำนักแห่งสุดท้ายของพญาอินทรีแห่งวงการวรรณกรรมอย่าง ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2538 ผู้เป็นเจ้าของผลงานระดับตำนานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หลงกลิ่นกัญชา, แดง รวี, เสเพลบอยชาวไร่ ฯลฯ
ถึงแม้ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ จะโบยบินไปสู่ดินแดนใหม่นานกว่า 10 ปี แล้ว (ถึงแก่กรรมในปี พ.ศ. 2552) แต่บ้านสวนหลังนี้ยังคงมีชีวิตชีวา ความอบอุ่น แช่มช้า และเต็มไปด้วยความสดชื่นของต้นไม้ใบหญ้าเสมอ เพราะภรรยาของคุณ‘รงค์ อย่าง ‘ป้าติ๋ม’ ผู้ที่มีชื่อเรียกขานในงานเขียนของ’รงค์ว่า ‘มาดามวารินชำราบ’ ยังคงอาศัยบ้านหลังนี้เป็นที่พักพิง นอกจากนี้ยังเปิดส่วนเล็กๆ ภายในบ้านให้เป็นที่พักขนาด 2 ห้อง พร้อมเสิร์ฟอาหารตำรับท้ายบ้าน ในแบบที่เคยทำให้พญาอินทรีอิ่มท้องอุ่นใจมาตลอดชีวิต ให้กับแขกผู้มาเยือนอยู่เสมอ
เดินทางสู่สวนลับ
เราใช้เวลาราว 40 นาที บนถนนที่มุ่งหน้าสู่แม่ริม-สะเมิง เดินทางออกจากความคึกคักในตัวเมืองเชียงใหม่เพื่อมุ่งหน้าสู่สวนลับ ที่ยิ่งใกล้ถึงก็ยิ่งคดเคี้ยวคล้ายถนนจะรวมตัวกลายเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ซึ่งภายหลังป้าติ๋มเล่าให้ฟังว่า ผู้มาเยือนหลายคนก็แอบตกหล่นไปตามความยากง่ายของเส้นทาง หลงบ้าง เหนื่อยบ้าง หงุดหงิดบ้าง จนต้องโทรบอกทางกันเป็นว่าเล่น โดยหากใครหาทางเข้าบ้านไม่เจอจริงๆ ป้าติ๋มก็จะอำนวยความสะดวกเท่าที่สามารถจะทำได้ด้วยการส่งเด็กขี่มอเตอร์ไชค์ออกไปรับที่หน้าอบต.
เมื่อข้ามผ่านเส้นทางคดเคี้ยวและถนนที่แซมด้วยดินแดงเข้ามาถึง หุบเขาเล็กๆ สีเขียวชอุ่มอันเป็นอาณาเขตของสวนทูนอินก็ตั้งตระหง่านทักทาย รอให้ทุกคนปีนบันไดลงไปสัมผัสกับความสงบของธรรมชาติ บ่อปลาคาร์ฟสีฟ้าอมเขียว อาหารอร่อยๆ ฝีมือป้าติ๋ม และห้องทำงานพร้อมคลังหนังสือของคุณรงค์ กันแล้ว
ป้าติ๋มพาเราเข้าไปเยี่ยมชมห้องหนังสือที่เก็บรวบรวมงานเขียนจำนวนมากมายมหาศาลของคุณ’รงค์เอาไว้ในแบบที่รับรองว่าแฟนหนังสือจะต้องกรี๊ดแล้วกรี๊ดอีกแบบหยุดไม่อยู่ เพราะไม่ว่าจะหายากหรือเก่าแก่แค่ไหนที่นี่ก็มีหมด โดยป้าติ๋มบอกว่าถ้าใครมีเวลา จะนั่งอ่านนอนอ่านอยู่ในนี้ก็ไม่มีใครว่า แต่ถ้าอยากมีเวลาเหลือเฟือจริงๆ เราว่าแวะมาค้างที่นี่ซักคืนก็น่าจะเต็มอิ่มไม่น้อย
นอกจากบรรดาหนังสือของคุณ’รงค์ ที่นี่ยังเป็นที่ๆ ป้าติ๋มเก็บรวบรวมงานศิลปะที่เหล่าศิลปินทั้งมือฉมังและมือสมัครเล่นซึ่งเป็นแฟนหนังสือวาดและมอบให้เป็นที่ระลึกอีกด้วย โดยป้าติ๋มเล่าว่ามีชิ้นหนึ่งที่แฟนหนังสือเคยวาดและวางระดับเอาไว้หัวเตียงมานานหลายปี ก่อนที่เจ้าของจะส่งมันที่นี่ แค่คิดตามว่าภาพวาดซึ่งถ่ายทอดความรักในผลงานในวันนั้นได้เดินทางจากข้างเตียงมาวางเคียงข้างผลงานของคุณ’รงค์ในห้องนี้ เราก็อดดีใจแทนเจ้าของผลงานอย่างบอกไม่ถูก
ภาพนี้ป้าติ๋มเล่าว่าเป็นภาพที่เพื่อนศิลปินวาดให้เนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพของคุณ’รงค์ โดยในงานได้ถูกแฟนหนังสือประมูลไปด้วยเงินจำนวนไม่น้อยเพื่อนำเงินไปทำการกุศล ป้าติ๋มจึงไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพนี้อีก แต่สุดท้ายแฟนหนังสือคนนั้นก็มอบภาพวาดผืนนี้กลับคืนสู่บ้านของมันอย่างสวนทูนอิน ภาพของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ (หนุ่ม) วัย 28 ตลอดกาลผืนนี้จึงได้กลายมาเป็นเอกลักษณ์ของห้องหนังสือแห่งนี้ในที่สุด
ห้องทำงานของพญาอินทรีที่ยังคงถูกเก็บเอาไว้ในสภาพเดิม เสมือนถูกหยุดเวลาเอาไว้ในปี 2552 รายล้อมไปด้วยหนังสือจำนวนมหาศาลอันเป็นแหล่งข้อมูลชั้นดีและเครื่องพิมพ์ดีดคู่ใจ
เมนูท้ายบ้าน
ม้าฮ่อ แกงส้มเปลือกแตงโม ซี่โครงหมูอบกะหล่ำปลี ปลาตะเพียนทอด ปลาแห้งแตงโม หลนแหนม ข้าวเหนียวเปียกข้าวโพด น้ำมะเฟือง และน้ำดื่มในอุณหภูมิเท่าอากาศเย็นๆ ของเชียงใหม่ ซึ่งเป็นน้ำแร่ที่เกิดจากตาน้ำในบริเวณบ้าน คืออาหารสำรับใหญ่ที่ป้าติ๋มเตรียมเอาไว้ต้อนรับเราในวันนี้
อาหารในสวนทูนอินไม่ใช่อาหารเหนือ แต่เป็นอาหารบ้านๆ ตำรับอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ตามชื่อเสียงเรียงนามและบ้านเกิดของคนทำ ผสมผสานกับสูตรพิเศษจากครอบครัวฝ่ายแม่ของคุณรงค์ ก่อนจะปรับให้เป็นรสชาติที่ป้าติ๋มและพญาอินทรีชื่นชอบ จนได้ออกมาเป็นสำรับที่หากินไม่ได้ที่ไหนนอกจากในบ้านหลังนี้
ปรัชญาของบุปผาชน
“Turn on, tune in, drop out” เป็นวลีจากเนื้อเพลงของ Timothy Leary ปรมาจารย์แห่งความมึนเมา ซึ่งเป็นเสมือนคาถาประจำใจของชาวบุปผาชน ที่คุณ‘รงค์ หยิบยืมมาใช้ตั้งชื่อ ‘สวนทูนอิน’ แห่งนี้ หลังจากที่เคยปรากฏมาแล้วใน ‘หลงกลิ่นกัญชา’ นวนิยายกึ่งสารคดีที่คุณ’รงค์ ถ่ายทอดวิถีชีวิตของบุปผาชนหรือฮิปปี้ ผ่านช่วงชีวิตที่เขาอาศัยอยู่ในซานฟรานซิสโกยุค 60s โดยมีการให้ความหมายของทั้งสามคำนี้เอาไว้ว่า
‘Turn on’ หมายถึงการเปิดสวิชต์เพื่อเดินทางเข้าไปสำรวจภายในจิตใจของตัวเอง ซึ่งตามความหมายเดิมอาจหมายถึงการเปิดประสาทสัมผัสด้วยสิ่งมึนเมาและยาเสพติด แต่ในปัจจุบันที่รูปแบบการใช้ชีวิตแต่เข้าถึงสื่อเปลี่ยนแปลงไป อาจหมายถึงการเปิดมุมมองใหม่จากช่วงเวลาต่างๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือสิ่งใดก็ได้ที่ทำให้เราเข้าถึงและเข้าใจทัศนะใหม่ของชีวิต
‘Tune in’ หมายถึงการปรับระดับจิตใจให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เพื่อให้ตัวเองสามารถเปิดใจเรียนรู้ พร้อมทั้งมอบความรักและความกรุณาให้กับทั้งมนุษย์และโลกได้โดยไม่มีเงื่อนไขของเพศ ชาติ หรือศาสนา แต่เป็นเพียงมนุษย์กับมนุษย์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโลกไม่ต่างกัน
และ ’Drop out’ หมายถึงการละทิ้งทุกสิ่งและดำเนินชีวิตตามวิถีที่ตนเองปรารถนา
นอกจากวลีนี้จะถูกหยิบมาใช้ตั้งชื่อบ้านหลังนี้แล้ว ยังเป็นเสมือนปรัชญาที่คุณ’รงค์ ยึดถือในการใช้ชีวิตและเขียนหนังสืออีกด้วย
พบมาดามวารินชำราบ
เมื่อเตรียมลำเลียงอาหารออกจากครัวจนครบสำรับอย่างพอดิบพอดี ป้าติ๋มก็ออกมาทักทายพวกเราอย่างเป็นกันเอง เมื่อได้คุยกันจริงๆ เราก็พบว่าถึงแม้ชีวิตในปัจจุบันจะอบอุ่นแช่มช้าเหมือนนิยายชวนฝัน แต่มาดามวารินชำราบตัวจริงนั้นไม่ได้มีจังหวะเนิบช้าเหมือนธรรมชาติรอบกาย แต่ทั้งคุยเก่งแถมยังซุกซนปนแสบและมากไปด้วยพลังงาน สมกับที่เป็นคู่ชีวิตของ’รงค์ วงษ์สวรรค์
โดยนอกจากการดูแลที่พักและอาหารในสวนทูนอินแห่งนี้แล้ว ป้าติ๋มยังไม่ยอมปล่อยเวลาให้ผ่านไปว่างๆ แต่ดูแลสวนผลไม้นานาชนิดรอบบ้านอยู่เสมอ โดยเฉพาะสวนกาแฟที่ไม่เพียงแค่ปลูก แต่ป้าติ๋มยังเก็บผลเชอร์รี่สีแดงสดมาแปรรูปด้วยกระบวนการ Dry Process หรือการตากทั้งเมล็ดจนได้ความชื้นที่เหมาะสม ก่อนจะนำไปส่งโรงคั่วและกลายมาเป็นกาแฟ Single Origin สูตรสวนทูนอินที่รู้ที่มาที่ไปของวัตถุดิบเพราะทำเองแทบจะทุกขั้นตอน
อาหารฝีมือป้าติ๋มเสิร์ฟสำหรับผู้ที่สำรองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้นเพื่อให้สามารถบริหารจัดการได้พอดีกำลัง หา
ใครอยากแวะมาทาน สามารถโทรไปสอบถามและติดต่อล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 053-879-251 และ 087-185-2951 เลย โดยเราขอแนะนำให้มาโดยเผื่อเวลาให้มื้อนี้ซัก 2-3 ชั่วโมง จะได้ซึบซับบรรยากาศดีๆ ของที่นี่แบบไม่รีบร้อน รับรองว่ารู้สึกดีจริงๆ นะ 🙂
Info
Contributors
กันยณัฏฐ์ พรจันทร์ทอง
Writerนักเขียน, นักเดินทาง, เด็กหญิงผู้เติบโตในเมืองเก่า ที่มีความสุขทุกครั้งที่ได้จัดกระเป๋าออกไปรู้จักโลก ปัจจุบันกำลัง In a Relationship with ศิลปะ หนัง พิพิธภัณฑ์ เสื้อผ้ามือสองและการเดินเรื่อยเปื่อย
กันยณัฏฐ์ พรจันทร์ทอง
Photographerนักเขียน, นักเดินทาง, เด็กหญิงผู้เติบโตในเมืองเก่า ที่มีความสุขทุกครั้งที่ได้จัดกระเป๋าออกไปรู้จักโลก ปัจจุบันกำลัง In a Relationship with ศิลปะ หนัง พิพิธภัณฑ์ เสื้อผ้ามือสองและการเดินเรื่อยเปื่อย